“หงส์แดง” ลิเวอร์พูลยังคงรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการคนใหม่ อาร์เน่อ ซล็อต โดยเฉพาะการเอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แชมป์บุนเดสลีกาทีมล่าสุด ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 4-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
.
“หงส์แดง” สามารถเอาชนะการตั้งรับที่เหนียวแน่นของทีมเยือนจากเยอรมนีได้ ซึ่งหากนึกถึงใครซักคนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะนึกถึงชื่อของ “เคอร์ติส โจนส์” ขึ้นมาได้…แต่ก็เป็นไปแล้ว
.
จาก “พ่อทองม้วน” ที่ทำให้แฟนๆต้องอิดหนาระอาใจ มาถึงวันนี้ เคอร์ติส โจนส์ กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมไปแล้ว โดยเฉพาะช็อต คิลเลอร์พาส ที่ไหลบอลให้ หลุยส์ ดิอาซ ทำประตูแรก ที่นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลเอาชนะเกมนี้
.
เคอร์ติส โจนส์ เป็นผู้เล่นที่ถูกมองข้ามไปบ้างในฤดูกาลที่แล้วภายใต้การคุมทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์ โดยมีส่วนร่วมกับประตูไป 8 ครั้งจากการลงสนาม 36 เกม (5 ประตู 3 แอสซิสต์) โดยโจนส์ได้ลงเป็นตัวจริงเพียง 12 นัดเท่านั้น แต่ในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และทำผลงานได้โดดเด่นภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่อ ซล็อต และได้รับโอกาสลงเล่นใน 4 จาก 5 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีก รวมทั้งเกมเมื่อคืนวันอังคารที่ชนะเลเวอร์คูเซ่น
.
“ผมยังเรียนรู้อยู่ทุกวันเกี่ยวกับทุกๆ คน และเคอร์ติส [โจนส์] ก็เป็นหนึ่งในนั้น” ซล็อต กล่าว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการพัฒนาของโจนส์ในฤดูกาลนี้ “ตอนแรกผมเล่นให้เขาในตำแหน่งหมายเลข 6 ซึ่งไม่มีใครเห็นเพราะมันเป็นเกมปิด แต่เขาก็ไม่ได้เล่นได้ดีในเกมนั้น สิ่งที่ดีในตัวเขาคือ ณ จุดนี้เขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง เพราะตอนนี้เขามีความมั่นใจและรีแลกซ์กับการเล่นบอลมากๆ ดังนั้นคุณสามารถไว้วางใจเขาให้เล่นใกล้กับแนวรับ แต่เหมือนที่เราเห็นในเกมกับเชลซีและวันนี้ เขาก็สามารถทะลุเข้าไปในกรอบ 18 หลาและส่งบอลที่สำคัญได้ จริงๆ แล้วเขาได้ก้าวข้ามไปอีกระดับแล้วหลังจากการเตรียมทีมในช่วงปรีซีซั่น และนั่นคือเหตุผลที่เขาได้รับโอกาสลงเล่นในตอนนี้ เพราะถ้าผู้เล่นทำได้ดี พวกเขาก็จะได้รับโอกาส”
.
ความมั่นใจในการเล่นบอลของโจนส์สามารถเห็นได้ชัดเจนในเกมที่แอนฟิลด์เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อเขาเคลื่อนที่ระหว่างตำแหน่งและสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับทีมไม่แพ้กับการสร้างโอกาสเองในตำแหน่งกองกลาง นอกจากการแอสซิสต์สำคัญของเขาแล้ว โจนส์ยังได้ยิงเองอีกสามครั้ง และดูเหมือนว่าเขาจะเติบโตขึ้นเป็นผู้เล่นที่มีความอันตรายมากขึ้นในเกมรุกของลิเวอร์พูลในทุกๆ เกม
.
ฤดูกาลที่แล้ว โจนส์มีส่วนร่วมกับการทำประตูเฉลี่ยเพียง 0.35 ครั้งต่อ 90 นาที ตัวเลขนี้ไม่ได้แย่สำหรับกองกลางวัยหนุ่มซักคนนึง แต่มันกลายเป็นน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับผลงานที่เขาทำได้ในฤดูกาลนี้ โดยภายใต้การคุมทีมของ ซล็อต จนถึงตอนนี้ โจนส์มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 5 ครั้ง (1 ประตู 4 แอสซิสต์) จากการลงเล่น 12 นัดให้กับลิเวอร์พูล ซึ่งทำให้เขามีค่าเฉลี่ยมีส่วนร่วมกับประตู 0.73 ครั้งต่อ 90 นาที หรือพูดง่ายๆก็คือ เคอร์ติส โจนส์ มีพัฒนาการในด้านนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
.
แม้ลิเวอร์พูลจะมีผู้เล่นแนวรุกที่ฟอร์มดีมากมาย และ โจนส์ อาจจะไม่ได้เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมกับเลเวอร์คูเซ่น แต่เขาก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ ซล็อต ไว้วางใจมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะเหนือเวสต์แฮม, เชลซี, ไบรท์ตัน หรือแม้กระทั่งเลเวอร์คูเซ่น โจนส์ดูเหมือนจะสร้างนิสัยในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับประตูให้กับลิเวอร์พูลได้อย่างต่อเนื่อง
.
และไม่มีข้อสงสัยเลยว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาเติบโตได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของผู้จัดการคนใหม่นั่นเอง