ลิเวอร์พูล พบกับความผิดหวังในการลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก จากการที่ทำได้แค่เสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทั้งที่พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวในครึ่งแรก และโอกาสนับครั้งไม่ถ้วนตลอด 90 นาที
และสุดท้าย หงส์แดง ก็ต้องชดใช้อีกครั้งสำหรับการจบสกอร์ที่สิ้นเปลืองอย่างไม่น่าเชื่อ
การใช้โอกาสเปลืองที่ว่า กลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับลิเวอร์พูลในช่วงหลังๆ และหากเป็นเช่นนั้นต่อไป ก็ต้องยอมรับว่าคงไม่ง่ายที่จะไขว่คว้าความสำเร็จได้ในบั้นปลาย
“ผมอยากให้เราจับบอลซักหน่อยแล้วค่อยยิงประตู” เจอร์เก้น คล็อปป์ ประเมินหลังเกม “หากเราเข้มงวดกว่านี้อีกสักหน่อยในบางสถานการณ์ เราสามารถชนะได้ที่นี่”
และนี่คือจุดที่น่าสนใจจากเกมนี้
1. วันที่อยากลืมของ ดาร์วิน นูนเญซ
หลังจากต้องดิ้นรนในช่วงปีแรกของเขาที่แอนฟิลด์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดาร์วิน นูนเญซมีความก้าวหน้าอย่างมากในฤดูกาลนี้
แต่เกมนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจว่า “ยังอีกไกล” ที่ นูนเญซ จะพัฒนาฝีเท้าให้กลายเป็นดาวยิงระดับโลก
จริงอยู่ที่จังหวะแอสซิสต์นั้นเจ้าตัวโหม่งได้ดี แต่ตลอดทั้งเกม นูนเญซจ่ายบอลสำเร็จเพียง 6 ครั้งจากโอกาสทั้งหมด 12 ครั้ง และพลาดโอกาสทำประตูครั้งใหญ่ไปเพียบก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออก
ก็คิดดูละกันว่า ในเวลาที่ทีมต้องการประตู แต่โค้ชกลับเลือกเปลี่ยนกองหน้าออก นั่นแสดงว่ากองหน้าผู้นั้นมันน่าผิดหวังขนาดไหนในเกมนี้
นูนเญซ ไม่ใช่คนเดียวที่เล่นแย่ แต่จากค่าตัวมหาศาลของเขา จะไม่ให้คาดหวังอะไรเลยก็คงไม่ได้หรอก
2. ทำไมใช้ ควานซาห์ ก่อน โกนาเต้
การที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ ต้องอยู่บนม้านั่งสำรองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั่นแสดงให้เห็นว่าความฟิตของเขาน่าจะเพียงพอ (แม้จะไม่ค่อยเต็มร้อยก็เหอะ)
ไม่ใช่ว่าควานซาห์เล่นได้แย่ เพราะนอกจากจังหวะเสียประตูแรกแล้ว ดาวรุ่งผู้นี้ก็ถือว่าทำได้ดี
เพียงแต่สงสัยว่าจะดีกว่าไหมหากเป็น โกนาเต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเร็วของเขาที่จะมีประโยชน์มากในแง่ของการป้องกันไม่ให้ยูไนเต็ดได้รับโมเมนตัมจากการสวนกลับ
3. ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ตัวพลิกเกม
หากมีนักเตะลิเวอร์พูลคนหนึ่งที่สามารถเดินออกจากโอลด์แทรฟฟอร์ดได้อย่างสง่าผ่าเผย คนๆ นั้นคือฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ อย่างแน่นอน
ดาวเตะวัย 21 ปีลงสนามในเวลาที่หงส์แดงตามหลัง 1-2 และไม่เพียงแต่เรียกจุดโทษที่นำไปสู่ประตูตีเสมอ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเกมอีกด้วย
แม้ว่าเขาจะอายุยังน้อย แต่ดูเหมือนว่าเอลเลียตต์จะเข้าใจดีกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ว่าจะผสมผสาน “ความอดทน” กับ “การเร่งเกม” ได้อย่างไร เพราะคนอื่นๆถ้าไม่มัวหวงบอลจนเสียจังหวะรุกเร็ว ก็เร่งเกมซะจนลนลาน
4. ความพ่ายแพ้ในแดนกลาง
เช่นเดียวกับเกม เอฟเอ คัพ ที่เพิ่งเจอกันไป ต้องยอมรับว่าแดนกลางของลิเวอร์พูลนั้นทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ
จากการดวลกันบนภาคพื้น 24 ครั้งในเกมนี้ กองกลางหงส์แดงชนะแค่ 8 ครั้งเท่านั้น โดย 5 ครั้ง (จากความพยายาม 10 ครั้ง) มาจาก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่เล่นได้โดดเด่น
แต่ วาตารุ เอ็นโด (ชนะแค่ 2 จาก 8 ครั้ง) และโดมินิค โซโบซไล (ชนะ 1 จาก 6 ครั้ง) ทำให้ฝ่าย ยูไนเต็ด สามารถตั้งหลักได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถควบคุมเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จแบบที่พวกเขาต้องการ