@www333
เข้ากลุ่มครอบครัวฟุตบอล คลิกที่นี่ @www333
logo
Menu

วิจารณ์ กระแสต่างประเทศ : “อาร์เซน่อล” เกมรุกทำให้ชนะ เกมรับ (กำลังจะ) ทำให้เป็นแชมป์ By : Colly

สำหรับแฟนบอล “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ฤดูกาลนี้น่าจะเป็นซีซั่นที่พวกเขามีความสุขมากที่สุดแล้วนับตั้งแต่หมดยุคของตำนานกุนซืออย่าง อาร์แซน เวนเกอร์

.
โดยลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้า อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาคว้าชัยชนะเหนือ ไบรท์ตัน ไปแบบ “เอาต์คลาส” 3-0 ขณะที่คู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอ แมนฯยูไนเต็ด
.
พรีเมียร์ลีกปีนี้น่าจะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบหลายปี โดยที่อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีคะแนนห่างกันเพียงแต้มเดียวขณะที่เหลือเพียง 7 เกมเท่านั้น
.
ในช่วงนี้ของฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อลมีแต้มเหนือซิตี้อยู่หนึ่งแต้ม แต่พวกเขาไปหลุดฟอร์มในช่วงโค้งสุดท้าย ส่งผลให้ปีนี้ “เดอะ กันเนอร์ส” ตั้งเป้าขอลบล้างความผิดหวังครั้งนั้นให้ได้ ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น การรู้จักยืดหยุ่นผ่อนหนักผ่อนเบา และที่ชัดเจนที่สุดก็คือสถิติแนวรับที่ถือว่าดีที่สุดใน 5 ลีกดังของยุโรป (นับเฉพาะเมื่อเริ่มปฏิทินปี 2024 เป็นต้นมา)
.
อาร์เซน่อลบันทึกคลีนชีตเป็นครั้งที่สามติดต่อกันในลีกกับไบรท์ตัน และยังเน้นย้ำถึงแนวรับที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา ด้วยการมีสถิติเกมรับที่ดีที่สุดในลีก โดยเสียไปเพียง 24 ประตู น้อยกว่าลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ถึง 6 ประตู
.
อาร์เซน่อลเสียไปแค่ 0.77 ประตูต่อเกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งดีกว่าฤดูกาลที่แล้วอย่างมากเมื่อพวกเขาเสียไปถึง 43 ประตู (เฉลี่ย 1.13 ประตูต่อเกม) เกมรับของพวกเขาดีขึ้นมาเมื่อได้ผู้เล่นคนสำคัญอย่าง ดีแคลน ไรซ์ มาร่วมทีม ทำให้ค่าตัวนับร้อยล้านปอนด์ของเขากลายเป็นการ “คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม” หลังเปลี่ยนบทบาทจากนักเตะเบอร์ 6 กลายเป็นเบอร์ 8 ที่วิ่งพล่านไปทั่วสนาม โดยใช้ จอร์จินโญ่ เล่นในบทบาทตัวลึกแทน
.
การผนึกกำลังกันของ ดีแคลน ไรซ์ และ จอร์จินโญ่ สร้างความแข็งแกร่งในการป้องกันก่อนถึงแบ็กโฟร์ได้เป็นอย่างดี และผลลัพธ์ก็คือนับตั้งแต่ปี 2024 อาร์เซน่อลเสียไปแค่ 4 ประตูเท่านั้นจาก 11 เกมในลีก
.
มิเกล อาร์เตต้า ค่อยๆสร้างแนวรับที่แข็งแกร่งทีละน้อย กาเบรียล มาร์กัลเญส และ วิลเลี่ยม ซาลิบา ถือเป็นคู่หูเซ็นเตอร์แบ็กที่ดีที่สุดในลีก จนกล่าวกันว่าหาก ซาลิบา ไม่โชคร้ายบาดเจ็บในปีก่อน “ปืนใหญ่” คงซิวแชมป์ลีกไปแล้ว เพราะ ร็อบ โฮลดิ้ง ไม่สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนได้
.
และตอนนี้ ซาลิบา ก็ถูกประเมินค่าตัวว่าอยู่ในเกรดเดียวกับยอดเซ็นเตอร์แมนฯซิตี้อย่าง รูเบน ดิอาส ไปแล้ว (ค่าตัวประเมินอยู่ที่ 80 ล้านยูโรเท่ากัน)
.
ดาบิด ราย่า คืออีกคนที่เป็นกุญแจสำคัญในแนวรับ หลังยกระดับขึ้นมามากจนแย่งตำแหน่งนายทวารมือ 1 มาจาก อาร่อน แรมส์เดล ได้สำเร็จ โดย ราย่า มีลุ้นคว้ารางวัลถุงมือทองคำจากการเก็บคลีนชีตมากที่สุดในซีซั่นนี้ (ตอนนี้ทำไปแล้ว 12 คลีนชีตจาก 25 เกมในลีก นำหน้า จอร์แดน พิคฟอร์ด ของเอฟเวอร์ตัน 3 คลีนชีต)
.
ด้านนักเตะสารพัดประโยชน์อย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็ถือเป็นกุญแจสำคัญของทีมเช่นกันหลังกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในสองเกมหลังสุด แถมการได้ ยาคุบ คีวิออร์ เข้ามา ก็ทำให้การแข่งขันแย่งตำแหน่งตัวจริงมีความเข้มข้นขึ้น และทั้งคู่ก็ช่วยกันยกระดับกันและกันไปอีกขั้นหนึ่ง
.
ส่วนในตำแหน่งแบ็กขวา เบน ไวท์ มีฤดูกาลที่โดดเด่นหลังเปลี่ยนตำแหน่งจากเซ็นเตอร์แบ็กมาประจำการริมเส้น และเขาเป็นปัจจัยสำคัญในสถิติแนวรับของอาร์เซน่อลเวลานี้อย่างยิ่ง
.
ด้วยฟอร์มแบบนี้ มิเกล อาร์เตต้า มีโอกาสสูงมากที่จะได้ถ้วยแชมป์มาประดับในเรซูเม่ของเขา ไม่ว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่กำลังมีลุ้นอยู่ รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยังอยู่ในเส้นทางเช่นกัน และหากเขาทำสำเร็จ ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้ “แบ็กโฟร์” ในปัจจุบัน ที่ทำให้แฟนๆลืมชื่อของตำนานยุคเก่าอย่าง เดวิด ซีแมน, โทนี่ อดัมส์, มาร์ติน คีโอว์น, ไนเจล วินเทอร์เบิร์น และ ลี ดิ๊กซั่น ไปได้สนิท