วิจารณ์ กระแสต่างประเทศ : ในเชิงสถิติ “ลิเวอร์พูล” มีโอกาสไหมกับการพลิกนรกอัด “อตาลันต้า” By: Colly

การอำลาเก้าอี้กุนซือของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาลนี้ เหล่านักเตะและแฟนบอลต่างต้องการให้เป็นการอำลาที่สวยหรูที่สุดเพื่อเป็นเกียรติแก่กุนซือผู้พาทีมประสบความสำเร็จสูงสุดนับตั้งแต่ยุคพรีเมียร์ลีกเป็นต้นมา แต่พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการกับการคว้าแชมป์ให้ได้มากกว่า 1 ถ้วย (คาราบาวคัพ ที่ได้มาก่อนหน้านี้แล้ว) ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีกที่สะดุดถี่ยิบในช่วงหลังจนต้องตกมาอยู่ที่ 3 รวมถึงในศึก ยูโรปาลีก ที่นัดแรกแพ้อตาลันต้ามาถึง 0-3
แต่ขึ้นชื่อว่าลิเวอร์พูล อะไรก็เกิดขึ้นได้
ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันรอบน็อกเอาต์ของยูฟ่า มีเพียง 9 ทีมเท่านั้นที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้หลังเป็นฝ่ายตามหลังด้วยผลต่าง 2 ประตูขึ้นไป เอาแค่ในฤดูกาลนี้ที่ทำได้แล้วก็คือ โอลิมเปียกอส ที่พลิกสถานการณ์จากที่แพ้ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ 1-4 ก่อนกลับมาชนะ 6-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของศึก คอนเฟอเรนซ์ลีก อย่างไรก็ตามเกมดังกล่าวไม่เหมือนเกมอื่นเนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่ทำให้ มัคคาบี้ ไม่ได้เล่นในอิสราเอล แต่ต้องไปเล่นที่ ทีเอสซี อารีน่า สนามเหย้าของ บัคค่า โทโปล่า ทีมดิวิชั่น 1 ของเซอร์เบีย ท่ามกลางแฟนบอลแค่ 350 คน
ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ยิ่งยากลำบากขึ้นไปอีก เพราะพวกเขาจะเผชิญหน้ากับแฟนบอล 15,000 คนที่สนามเกวิส สเตเดียม ในเมืองแบร์กาโม่ ซึ่งบัตรขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว แต่บางทีทีมของคล็อปป์สามารถดึงความมั่นใจได้ว่าพวกเขายังมีโอกาส เพราะในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2020/21 ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะอตาลันต้าได้ถึง 5-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม จากแฮตทริกของ ดีโอโก้ โชต้า และเป็นสถิติพ่ายในบ้านยับเยินของ อตาลันต้า ในถ้วยยุโรป นับถึงปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา อตาลันต้าก็แพ้ในบ้านแบบที่มีผลต่าง 3 ประตูขึ้นไปเพียงครั้งเดียว คือพ่ายโรม่า 1-4 ในปี 2021 ขณะที่ในฤดูกาลนี้ อตาลันต้า แพ้ในบ้านแค่ 3 จาก 20 เกมรวมทุกรายการ และการพ่ายแพ้ทั้งสามนัดที่ว่า เกิดขึ้นด้วยสกอร์เดียวกันหมดคือ 1-2 เท่านั้น
การบุกไปชนะที่แบร์กาโม่ด้วยสกอร์ที่มากกว่า 3 ลูก อาจเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ แต่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลถ้วยยุโรป ลิเวอร์พูลชนะเกมเยือนด้วยผลต่าง 3 ประตูขึ้นไปได้ถึง 9 นัด ไม่รวมถึงเกมคัมแบ็กแห่งความทรงจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพลิกสถานการณ์ชนะ บาร์เซโลน่า 4-0 จากที่แพ้ 0-3 ในนัดแรก รวมถึงการไล่ตีเสมอ เอซี มิลาน 3-3 จากที่ตามหลัง 0-3 ในครึ่งแรก ในเกม “ปาฏิหาริย์แห่งอิสตันบูล”
และไม่ใช่แค่ ลิเวอร์พูล ทีมเดียว แต่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลถ้วยยุโรป มีเกมคัมแบ็กอันน่าเหลือเชื่อมาหลายต่อหลายนัด โรม่า เคยแพ้ บาร์ซ่า ที่คัมป์ นู 1-4 แต่ก็กลับมาชนะในบ้าน 3-0 เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน ขณะที่ บาร์ซ่า เอง ก็ใช่ว่าจะแพ้อย่างเดียว พวกเขายังเคยชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 6-1 พลิกเข้ารอบหลังแพ้เปแอสเช 0-4 ในนัดแรกมาแล้ว
ดังนั้นในแง่สถิติ การคัมแบ็กเกิดขึ้นได้เสมอสำหรับการแข่งขันเหย้าเยือนแบบนี้
สิ่งที่น่าหวั่นใจมากกว่าคือ “ฟอร์ม” และ “กำลังใจ” ว่าพลพรรคหงส์แดงจะยังมีเหลือมากน้อยแค่ไหน เพราะช่วงหลังๆดูเหมือนจะเล่นแบบหมดแรงและหมดไอเดียเข้าไปทุกที
WEB ADMIN
Editor
1158 บทความ