ฟอร์มสุดโหด! ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ใน 8 นัดล่าสุดของพรีเมียร์ลีก 8 นัดหลังสุด ยิง 7 ประตู + 1 แอสซิสต์ vs เชลซี vs เลสเตอร์ vs เวสต์แฮม vs เบรนท์ฟอร์ด (ไร้สกอร์) vs แมนฯ ยูไนเต็ด vs เอฟเวอร์ตัน vs ฟูแล่ม vs แอสตัน วิลล่า สุดยอดเครื่องจักรสังหารของพาเลซ! มาเตต้ากำลังอยู่ในช่วงพีกสุด ๆ ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำและมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ คริสตัล พาเลซ เก็บแต้มสำคัญในช่วงหลัง
เอริก เทน ฮาก เปิดใจถึงอนาคตและความคิดถึงแมนฯ ยูไนเต็ด! “ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่รับงานไหนจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม หรือจนกว่าฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้น”“สิ่งหนึ่งที่ผมคิดถึงมากที่สุดคือ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เรามีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมากมายที่แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ผมพูดเสมอว่ายังมีช่องว่างให้พัฒนาเสมอ” “ดีอย่างเดียวไม่พอ” – เทน ฮากให้สัมภาษณ์กับ Seg Stories
ช่องว่างมหาศาล! แมนฯ ซิตี้ ตามหลังลิเวอร์พูลถึง 20 แต้ม! 20 แต้ม – ช่องว่างที่มากที่สุดที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยตามหลังจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในรอบ เกือบ 4 ปี! ครั้งล่าสุดที่พวกเขาตามหลังขนาดนี้คือ 14 กรกฎาคม 2020 … และนั่นเป็นปีที่ ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก!
🔥 อาร์เตต้า กระตุ้น สเตอร์ลิง คืนฟอร์ม! หวังช่วยอาร์เซน่อลลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก 📌 สถานการณ์ล่าสุดของ อาร์เซน่อล มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ออกโรงกระตุ้น ราฮีม สเตอร์ลิง ให้กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังทีมกำลังเผชิญปัญหานักเตะตัวรุกบาดเจ็บหลายราย อาร์เซน่อลขาดแนวรุกตัวหลัก : ❌ ไค ฮาแวร์ตซ์ ❌ กาเบรียล เชซุส ❌ บูคาโย่ ซาก้า ❌ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ทำให้แนวรุกที่เหลืออยู่มีเพียง เลอันโดร ทรอสซาร์, อีธาน วาเนรี่ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ซึ่งในเกมล่าสุดที่ชนะเลสเตอร์ วาเนรี่ วัย 17 ปี โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ ขณะที่ สเตอร์ลิง ถูกเปลี่ยนออกนาทีที่ 69 ⚽️ สเตอร์ลิงกับฟอร์มที่ยังไม่เปรี้ยง สเตอร์ลิง ซึ่งถูกยืมตัวจากเชลซี […]
นี่คือการพบกันครั้งที่ 10 ในแชมเปียนส์ลีกระหว่าง อันเชลอตติ และ กวาร์ดิโอล่า โดยจาก 9 ครั้งก่อนหน้า: อันเชลอตติ ชนะ 4 ครั้ง กวาร์ดิโอล่า ชนะ 2 ครั้ง เสมอ 3 ครั้งอันเชลอตติ ยังไม่เคยแพ้ กวาร์ดิโอล่า ในเกมเหย้า (ชนะ 2, เสมอ 2) การดวลครั้งนี้จึงน่าติดตาม!ส่วน เออร์ลิง ฮาแลนด์ ทำไปแล้ว 49 ประตูจาก 48 นัดในแชมเปียนส์ลีก หากเขาทำประตูได้ในเกมนี้ จะเป็นผู้เล่นที่ทำ 50 ประตู ในแชมเปียนส์ลีกเร็วที่สุดทั้งในแง่จำนวนนัด (49 นัด) และอายุ (24 ปี 213 วัน)
“แอนโทนี” กลับมาเกิดใหม่กับ เรอัล เบติส! ฟอร์มร้อนแรงสุด ๆ หลังจากถูกยืมตัวจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีกชาวบราซิลก็โชว์ฟอร์มเทพให้กับ เรอัล เบติส อย่างต่อเนื่อง! นัดแรก – คว้ารางวัล Man of the Match นัดที่สอง – ยิง 1 ประตู + คว้า Man of the Match อีกครั้ง นัดที่สาม – ซัดอีก 1 ประตู 3 นัดแรกกับเบติส = 2 ประตู + 2 รางวัลแมนออฟเดอะแมตช์! แอนโทนี เปิดใจหลังโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงกับ เรอัล เบติส ว่า… “ในใจผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผมจะมีความสุขมากที่เบติส ผมมั่นใจในเรื่องนั้น!” “ชัยชนะนี้ผมขอมอบให้แฟน ๆ พวกเขาไม่เคยหยุดเชียร์เราเลย” จากที่เคยโดนวิจารณ์อย่างหนักในพรีเมียร์ลีก […]
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แซงตำนาน! คีเลียน เอ็มบัปเป้ (52 ประตู) ทำประตูในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มากกว่า เธียร์รี อองรี (51 ประตู) แล้ว! อายุเพียง 25 ปี แต่ยิงเกินตำนานอย่างอองรี ที่เคยเป็นหนึ่งในสุดยอดกองหน้าของฝรั่งเศสและพรีเมียร์ลีก เอ็มบัปเป้ยังมีเวลาอีกมาก ในการลุ้นแซงสถิติผู้ทำประตูสูงสุดของแชมเปียนส์ลีก ที่ตอนนี้เป็นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (140 ประตู) และ ลิโอเนล เมสซี่ (129 ประตู) ——————-——————-
สเปอร์สเหลือแค่ทางเดียวเท่านั้น… คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก หรือพังทั้งซีซั่น! สถานการณ์ของไก่เดือยทองตอนนี้: ตกรอบคาราบาว คัพ ตกรอบเอฟเอ คัพ รั้งอันดับ 14 ในพรีเมียร์ลีก ทุกอย่างเดิมพันอยู่ที่ยูโรป้า ลีกเท่านั้น! ปอสเตโคกลูจะพาสเปอร์สฝ่ามรสุมนี้ไปได้หรือไม่? ——————-——————-
หลังจากบุกไปแพ้ ไบร์ทตัน 1-2 เอ็นโซ่ มาร์เรสก้า ให้สัมภาษณ์ว่า.. “การตกรอบเอฟเอ คัพ ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ไม่ต้องสงสัยเลย” “หากมีเรื่องอะไรดีๆ ก็คือเราสามารถโฟกัสไปที่ พรีเมียร์ลีกและคอนเฟอเรนซ์ลีกได้ หวังว่าเราจะเดินหน้าต่อไปที่นั่นได้” เชลซีเหลือให้ลุ้นแค่ท็อปโฟร์และยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีกเท่านั้น! ฤดูกาล 2024/25 ของเชลซีกับกุนซือ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เริ่มชัดเจนขึ้น หลังจากพวกเขาตกรอบ FA Cup และ Carabao Cup ไปเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายที่เหลือ: ท็อปโฟร์ – ลุ้นจบ 4 อันดับแรกในพรีเมียร์ลีกเพื่อไป UCL ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก – ความหวังสุดท้ายในการคว้าแชมป์ แฟนเชลซีคิดว่า “มาเรสก้า” จะพาทีมจบท็อปโฟร์ได้หรือไม่? ——————-——————-
แมนฯ ยูไนเต็ด แซงชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยประตูชัยได้จาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่โหม่งบอลเข้าไปอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม จากภาพช้าทางทีวีจะเห็นได้ว่า แม็กไกวร์ ล้ำหน้าอย่างชัดเจน แต่เนื่องจากในรอบนี้ไม่มี “วีเออาร์” (VAR) ทำให้ แมนยู ได้ประโยชน์ไป โดย ฟาน นิสเตล รอย ยอมรับไม่อยากเชื่อที่ไลน์แมนไม่เห็นจังหวะดังกล่าว อดีตหัวหอกดาวดัตช์กล่าวว่า “เราไม่ได้แพ้ในช่วงเฟอร์กี้ ไทม์ แต่เราแพ้ในช่วงออฟไซด์ไทม์” “นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากเพราะทีมสมควรเสมอ จากนั้นในช่วงต่อเวลาคุณก็ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น” “เราสมควรได้เล่นในช่วงต่อเวลา ได้ต่อสู้ และอาจถึงการการดวลจุดโทษ การตัดสินแบบนี้ในการเล่นระดับเราเป็นสิ่งที่ยากจะรับได้” ——————-——————-
